วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

โครงงานบล็อกของพรนิภา ม้าจีน

บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
        ปัจจุบันทางเทคโนโลยีสารสนเทศมีความก้าวหน้ามากขึ้น ดังนั้นข้าพเจ้าจึงทำเว็บเกี่ยวกับประวัติดาราไทยที่ข้าพเจ้าชอบเพื่อให้คนที่สนใจได้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติดารานักร้องที่ตนสนใจ ข้าพเจ้าจึงคิดที่จะใช้เทคโนโลยีในการทำเว็บบอร์ดขึ้นมาเพื่อเพิ่มกระแสความฮิตในตัวนักร้องที่ข้าพเจ้าชอบยิ่งขึ้น และเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้สนใจมีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น  มีหลักในการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
วัตถุประสงค์
 1.เพื่อนำเสนอศิลปินที่เราชอบให้มีคนรู้จักมากขึ้น
 2.เพื่อคนที่สนใจเกี่ยวกับประวัติดารานักร้องไทยได้ศึกษาเรื่องส่วนตัวของเขามากขึ้น
ขอบเขตของโครงงาน
 1. ประวัตินักร้องไทย
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
 1. มีคนมาชมเว็บบอร์ดเยอะมากขึ้น
 2.คนที่มาชมได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนักร้องไทยมากขึ้น
 3.นักร้องไทยที่เราชอบมีคนสนใจเยอะขึ้น



                                                                                                       บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง


  ชื่อเล่น     ริท
  วัน/เดือน/ปี    20 มิถุนายน 2533
  ภูมิลำเนาเดิม   ร้อยเอ็ด
  ส่วนสูง     170 ซม.     น้ำหนัก 55 กก.   
  การศึกษา    ชั้นปีที่1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  อุปนิสัย    ร่าเริง สดใส สนุกสนาน เฮฮา ขำขัน
  คติประจำใจ    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
  แนวเพลง   POP สนุกสนาน
  แนวหนัง    Fantacy
  สถานที่เที่ยว    ทะเล  สวนสนุก
  อาหารโปรด    ข้าวผัดไม่ใส่ผัก, ข้าวมันไก่, ข้าวหมูทอด
  ศิลปินคนโปรด  พี่บี้ The Star
  นักแสดงที่ชื่นชอบ พี่บี้ The Star
                ริท เรืองฤทธิ์ ผู้เข้าประกวดในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปีหก หรือ The Star 6 ซึ่ง ริท เรืองฤทธิ์ หนุ่มน้อยหน้าใส ฟันเหล็กเด็กแนว ที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นอาวุธคนนี้ พกพาเอาความขี้เล่น ความสดใส ร่าเริง มาพร้อม ๆ กับความสามารถในการร้องเพลง จนทำให้เขากลายเป็นตัวแทนผู้เข้าประกวดจากภาคอีสานไปช่วงชิงตำแหน่ง 1 ใน 8 คนสุดท้าย ที่จะไปยืนอยู่บนเวที The Star 6

ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช เกิดวันที่ 20 มิถุนายน 2533 ปัจจุบันอายุ 20 ปี จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขณะนี้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่ง ริท เรืองฤทธิ์ เผยถึงเหตุผลที่เลือกเรียนหมอว่า ที่บ้านฝันไว้ว่าอยากให้ลูกได้เป็นหมอตั้งแต่เด็กแล้วครับ พ่อแม่มองว่าหมอเป็นอาชีพที่มั่นคง เลยสนับสนุนให้ผมเรียนหมอครับ ทั้งที่ความจริงผมก็เฉย ๆ นะ ผมอยากเรียนอะไร ๆ ที่มันสบาย ๆ มากกว่านี้ เพราะเรียนหมอต้องเรียนหนักมาก แต่ผมก็จะพยายามเรียนในแบบของผมครับ (ยิ้ม) แต่จริง ๆ ผมก็มีความฝันว่าอยากจะเป็นนักร้องครับ

          และด้วยหน้าตาน่ารักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ ริท เรืองฤทธิ์ ถูกรุ่นพี่ดันให้เป็นตัวแทนฝ่ายชายของคณะแพทยศาสตร์ เพื่อเข้าประกวด KKU Freshy Boy & Girl 2009 หรือ เดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งในการประกวดครั้งนั้น ริท เรืองฤทธิ์ ที่ชื่นชอบการร้องเพลงเป็นชีวิต ก็หยิบไมค์มาครวญเพลงเพื่อแสดงความสามรถ จนชนะใจกรรมการได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครอบครอง ในการประกวดครั้งนั้น ทำให้  ริท เรืองฤทธิ์ กลายเป็นคนที่กล้าแสดงออกมากขึ้น จากที่แต่ก่อนจะขี้อาย ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ 

         สำหรับการมาประกวด The Star 6 ครั้งนี้นั้น ริท เรืองฤทธิ์ ให้เหตุผลสั้น ๆ ว่า "อยากลองทำดู" แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปยืนอยู่หน้าคณะกรรมการฝีปากกล้าทั้ง 3 คน ริท เรืองฤทธิ์ ก็นำนิสัยขี้เล่น กวน ๆ ทะเล้น ๆ ของตัวเองมาตอบคำถาม บวกกับเสียงร้องที่มีดี ทำให้ ริท เรืองฤทธิ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนภาคอีสาน ไปเก็บตัวในรอบสุดท้าย ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 8 คนสุดท้าย the star 6

         "หัวเราะไม่ออกเลยครับ ผมได้เข้ารอบตัวเองก็ดีใจ แต่ก็เสียใจที่เพื่อน ๆ ไม่ได้ ตอนที่ได้ฟังเพื่อน ๆ ร้องเพลง รู้สึกว่าเพื่อนเราเก่ง ๆ ทั้งนั้น เราไม่ได้วิเศษหรือเลิศเลอมาจากไหน แต่ผมก็ได้ไปต่อ ก็ตั้งใจจะเป็นตัวแทนเพื่อน ๆ ไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ" ริท เรืองฤทธิ์

บทที่ 3

วิธีการดำเนินงาน
 1. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
 2.เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3.เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.gmail.com
4.สมัคร G-mail ก่อน
5.พอสมัคร G-mail เสร็จก็ไปที่ www.blogger.com
6.เมื่อเราเข้าไปที่ www.blogger.com ที่ได้ทำการล็อกอินบัญชีของ Gmail แล้ว หน้าแรกของ blogger
คลิกไปที่เมนู บล็อกใหม่”  เพื่อทำการสร้างบล็อก
7. เมื่อเราคลิกไปที่เมนูเพื่อสร้างบล็อกใหม่แล้ว ให้ทำการกรอกรายละเอียดดังนี้ คือ ตรงหัวข้อ ให้พิมพ์ชื่อบล็อก ตรงที่อยู่ ให้ตั้งชื่อ URL ซึ่งควรใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษและตัวเลข และต้องดูตรงสถานะของบล็อกด้วยว่าชื่อ URL ที่ตั้งไปนั้นมีผู้ใช้แล้วหรือยังไม่มีผู้ใช้ มันจะแจ้งว่า ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้”  เสร็จแล้วให้ทำการเลือกรูปแบบ จากแม่แบบว่าจะให้บล็อกมีหน้าตาในการแสดงผลเช่นไร เมื่อเลือกแล้วก็ คลิกเมนู สร้างบล็อก
8. เมื่อทำการสร้างบล็อกแล้ว เราจะกลับมาที่หน้าจัดการบล็อกเพื่อทำการตกแต่งบล็อกให้ดูสวยงามโดยการใส่รูปภาพ
 หรือ โค๊ดต่างๆ ให้นักศึกษาทำการคลิกลูกศรสีดำ เพื่อเลือกเมนู รูปแบบ
9.เมื่อคลิกเมนูรูปแบบให้คลิกที่ เมนู เครื่องมือออกแบบเทมเพลต เพื่อปรับแต่งหน้าเทมเพลตตามที่เราต้องการ
10.เมื่อทำการเลือกรูปแบบของเทมเพลตแล้วให้กลับมาที่ รูปแบบ”  อีกครั้ง เพื่อทำการใส่หัวบล็อกและตกแต่งบล็อก
 โดยคลิกเลือกเมนู แก้ไข ตรงส่วนของ ชื่อบล็อก
11.เมื่อทำการใส่หัวบล็อกเสร็จแล้ว ให้คลิกที่เมนู เพิ่ม Gadget”
เพื่อใส่โค๊ด ปฏิทิน นาฬิกา สถิติผู้เยี่ยมชม แล้วแต่ความต้องการของเรา แล้วคลิกเมนู บันทึกการจัดเรียง
12. เมื่อทำการใส่โค๊ดตกแต่งตามต้องการแล้ว ให้เลือกเมนู หน้าเว็บ”   เพื่อทำการสร้างหน้าเว็บเพจต่างๆ ตามต้องการ
คลิกที่เมนู แสดงหน้าเว็บเป็น”  เลือกลูกศรสีดำ แล้วคลิกเลือกรูปแบบ แท็บด้านบนสุด”  
แล้วกด บันทึกการจัดเรียง
13.เมื่อคลิกเมนูสร้างหน้าเว็บแล้ว ให้ตั้งชื่อเว็บเพจ ตรงช่อง และพิมพ์รายละเอียดลงไป แล้วคลิกที่เมนู บันทึก
14.เมื่อทำการสร้างเมนูเว็บเพจ แล้ว ท่านสามารถที่จะทำลิงค์ไปเว็บไซต์หรือบล็อกต่างๆ โดยคลิกที่เมนู เพิ่ม “Gadget”
แล้วเลือก ฟังก์ชัน รายชื่อลิงค์แล้วคลิกเครื่องหมาย + เพื่อสร้างลิงค์ 15.เมื่อคลิกที่ฟังชันก์ รายชื่อลิงค์แล้ว ให้ทำการ พิมพ์ชื่อเมนู ว่า “ Link Exchange”   และ copy ลิงค์ ที่ต้องการเชื่อมโยงของเพื่อนมาใส่ไว้ในช่อง URL ของไซต์ใหม่  และ ตรงชื่อเว็บไซต์ให้ พิมพ์ชื่อ ของเว็บบั้นๆ ที่ต้องการทำลิงค์ เมื่อทำเสร็จ ให้คลิกที่ เมนู เพิ่มลิงค์”  เพื่อทำการเพิ่มลิงค์เว็บไซต์อื่นๆต่อไปแล้วคลิกที่เมนู บันทึก



                                                                                                        บทที่ 4
ผลการดำเนินงานโครงงาน

 การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การทำเว็บบอร์ด (Blogger) เรื่องบันเทิง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนได้รู้จักกับศิลปินที่เราชอบมากขึ้นด้วย โดยการสร้าง Blogger และค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับประวัตินักร้องไทยเพื่อให้คนที่สนใจได้ศึกษา เรื่องของนักร้องมากขึ้นตลอดจนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดำเนินงานโครงงาน ดังนี้
การทำเว็บบอร์ด (Blogger)  เรื่อง บันเทิง นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการสร้าง Blogger ตามที่อาจารย์ได้สอนไว้ทุกขั้นตอน

1 ผลการทำเว็บบอร์ดเรื่อง บันเทิง
ขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ http://www.Blogger.com จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อ พรนิภา  ม้าจีน
ทั้งนี้เว็บบล็อกสามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและ รวดเร็ว



                                                                                                     บทที่5

สรุปการดำเนินงาน

การดำเนินงานจัดทาโครงงาน
1. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
2. เพื่อศึกษาเว็บบอร์ด (Blogger) เรื่อง บันเทิง
 3.เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ บันเทิง
4. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบอร์ดจาก Blogger ได้ด้วยตนเองและนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
 5.เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป
 6.เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ http://www.blogger.com
7. มีการเข้ามาชมบร็อกถึง 52 คน


โครงงานห้อง หมวดวิทยาศาสตร์ บทที่ 1

บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
เนื่องจากในชุมชนมีการอนุรักษ์ป่าชายเลน เพราะในป่าชายเลนมีต้นโกงกางใบใหญ่เป็นจำนวนมาก พวกเราจึงคิดค้นที่จะทดลองเกี่ยวกับใบโกงกางใบใหญ่ที่จะนำมาทำอาหารรับประทาน และค้นหาส่วนผสมที่จะนำมาปรุงรสให้เข้ากับใบโกงกางใบใหญ่ให้มีรสชาติที่น่ารับประทานและจะไม่มีอันตรายต่อสุขภาพต่อเรา
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อพัฒนารสชาติของใบโกงกาง
2.เพิ่มคุณค่าของใบโกงกางใบใหญ่ให้มีประโยชน์มากขึ้น
3.ศึกษาใบโกงกางใบใหญ่ที่จะนำมาประกอบเป็นอาหาร
สมมุติฐาน
ได้ใบโกงกางใบใหญ่มาทำเป็นอาหาร
ตัวแปรต้น ใบโกงกางใบใหญ่
ตัวแปรตาม รสชาติที่เกิดขึ้น
ตัวแปรควบคุม ระยะเวลาในการทอด
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1.ใช้เฉพาะใบโกงกางไม่อ่อนไม่แก่เกินไป
2.เวลาการหมักหมู่  1 ชั่วโมง
3.ขนาดของใบโกงกางพอดีคำ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.รสชาติของใบโกงกางใบใหญ่ที่แปลกใหม่ไปจากเดิม
2.เป็นการเพิ่มคุณค่าของใบโกงกางใบใหญ่

3.สามารถนำใบโกงกางใบใหญ่ทอดมาประกอบอาชีพเสริมในครอบครัวและได้ลดปัญหาการว่างงานเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้กับคนในชุมชน

โครงงานห้อง หมวดวิทยาศาสตร์ บทที่ 4และ5

บทที่ 4
วิธีการดำเนินงาน
คณะผู้จัดทำได้ทำแผ่นพับโดยการนำสรรพคุณประโยชน์ของใบโกงกางและวิธีการทำใบโกงกางทอดโดยเฉพาะประวัติของต้นโกงกางใบใหญ่และได้รวบรวมศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับต้นโกงกางใบใหญ่และได้นำชื่อที่นักวิทยาศาสตร์เรียกกันว่า (Rhizophora mucronata Pole)  หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ต้นโกงกางใบใหญ่นั่นเอง

บทที่ 5
สรุปผล
จากผลการทดลองพบว่า
จากการทดลองและวิเคราะห์พบว่าใบโกงกางทอดมีรสชาติที่น่าลิ้มลอง แป้งกรอบและมีกลิ่นหอมที่น่ารับประทานพอดีคำ และคณะผู้จัดทำยังได้ค้นพบรสชาติและวิธีการปรุงรสที่ไม่เหมือนใครนั่นคือการนำผงปรุงรสสำเร็จรูปมาปรุงแต่งเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติที่แปลกใหม่และน่าลิ้มลองมากขึ้น
ประโยชน์
1. สามารถแปรรูปสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
2. มีรายได้เสริมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใบโกงกางทอดเพื่อสุขภาพ
3. ได้รับความรู้จากการทำโครงงาน ทั้งการผลิต การแปรรูป

4.ได้รับความรู้ที่จะทดลองรสชาติที่แปลกใหม่ไปจากของเดิม

โครงงานห้อง หมวดวิทยาศาสตร์ บทที่ 3

บทที่ 3
วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนวิธีในการดำเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์
วิธีการดำเนินงาน
วิธีการดำเนินการศึกษา
1. คณะผู้จัดทำจัดประชุมเพื่อปรึกษาและวางแผนแล้วนำเค้าโครงของโครงงาน (ตัวอย่างบทคัดย่อ) เสนอครูที่ปรึกษา  เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสม
2.คณะผู้จัดทำได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
3.คณะผู้จัดทำได้ศึกษาและทดลองวิธีการทอดและวิเคราะห์เวลาการหมักหมูให้พอดี
4.คณะผู้จัดทำได้ประชุมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้  แล้วจัดสรรข้อมูล  เพื่อเรียงลำดับความสำคัญ  จำแนก และวิเคราะห์ผลการศึกษา
5.คณะผู้จัดทำจึงจัดพิมพ์รูปเล่มโครงงานและสื่อต่างๆ  เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
6.คณะผู้จัดทำนำเสนอผลการศึกษาโครงงานต่อผู้ชม  เพื่อให้ผู้ชมสอบถามและตอบข้อซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กับผู้ชม
การจัดเตรียมวัตถุดิบและวิธีการทำใบโกงกางทอด
วัตถุดิบในการทำใบโกงกางทอด
1. ใบโกงกาง(ใบใหญ่)
 2. น้ำเปล่า
 3. กุ้งสับหรือหมูสับ ปูอัด
4. น้ำมันพืช
 5. แป้งประกอบอาหาร (โกกิ)
 6. น้ำจิ่มไก่
 7. ผงปรุงรสสำเร็จรูป (บาร์บีก้า บาร์บีคิว)
อุปกรณ์ในการทำใบโกงกางทอด
1.กาละมัง
 2. ตะแกง
 3. มีด
 4. กระทะ
 5. หม้อ
 6. ทัพพี
 7. กรรไกร
 8. ตะหลิว
 9. เตาแก๊ส
 10. จาน
 11. เขียง
 12. ถาด
 13. ช้อน ส้อม
 14. ถ้วยโฟม ชามโฟม
 15. หมวก ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน
วิธีการทำใบโกงกางทอด
1.เลือกเอาใบโกงกางใบใหญ่ที่ไม่อ่อน และไม่แก่จนเกินไป หรือใบที่ 3 นับจากยอด
 2.นำมาล้างน้ำแล้วผึ่งให้แห้ง หั่นใบโกงกางออกเป็นสามส่วน
3.นำกุ้งสับ หมูสับ หรือเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ มาทาลงบนใบโกงกางแล้วนำไปชุบแป้ง
4.นำมาทอดในน้ำมันด้วยไฟอ่อนๆ พอเหลืองได้ที่ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
5.ถ้าต้องการรสเพิ่มเติมให้ปรุงรสด้วยผงปรุงรสสำเร็จรูป

6.แต่งจานตามต้องการ

โครงงานห้อง หมาดวิทยาศาสตร์ บทที่2

บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ชื่อพื้นเมือง : กงกอน (เพชรบุรี, ชุมพร), โกงกางนอก กงกางนอก (เพชรบุรี), กงเกง (นครปฐม), กางเกง พังกา พังกาใบใหญ่ (ภาคใต้), โกงกางใบใหญ่ (ภาคใต้), ลาน (กระบี่)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora mucronata Poir.
ชื่อวงศ์ : RHIZOPHORACEAE
ชื่อสามัญ : Red Mangrove
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากเสริมออกมาเหนือโคนต้น รากค้ำยันแตกแขนงระเกะระกะ เรือนยอดรูปกรวยคว่ำแคบๆ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะหลุดร่วงไปเหลือกลุ่มใบที่ปลายกิ่ง ใบรูปรีถึงรีกว้าง มีติ่งแหลมเล็ก แข็ง สีดำ ที่ปลายใบ แผ่นใบหนา มีจุดเล็กๆ สีดำกระจัดกระจายทั่วไปทางด้านล่าง ช่อดอกออกตามง่ามใบที่ใบติดอยู่หรือร่วงไป ดอกตูมรูปไข่ มีใบประดับรองรับที่ฐานดอก กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย ผลคล้ายรูปไข่ปลายคอดสีน้ำตาลอมเขียว ลำต้นใต้ใบเลี้ยงรูปทรงกระบอก เรียว ค่อนข้างตรง ปลายเรียวแหลมยาว ผิวเป็นมัน สีเขียว มีตุ่มขรุขระทั่วไป

การกระจายพันธุ์ : ฝั่งทะเลตะวันออกของแอฟริกา เอเชีย ภูมิภาคมาเลเซีย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงหมู่เกาะตองกา
สภาพนิเวศน์ : ป่าชายเลนตามฝั่งทะเลทั่วไป ขึ้นเป็นกลุ่มเดียวล้วนๆ ในที่มีดินเลนอ่อนและลึก บริเวณฝั่งแม่น้ำหรือคลองด้านนอกที่ติดกับทะเลที่มีตะกอนของสารอินทรีย์สะสมค่อนข้างหนาจนเกือบเป็นสีดำและมีกลิ่นเหม็นคล้ายไข่เน่า
ประโยชน์ : ใช้ทำเสาและหลักในที่น้ำทะเลขึ้นถึง มีความทนทาน ใช้ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้านตามชายทะเล ใช้ทำถ่าน เปลือกให้น้ำฝาดประเภท catechol ให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ น้ำจากเปลือกใช้ชะล้างแผล ห้ามเลือด กินแก้ท้องร่วง แก้บิด

ลักษณะของโกงกางใบใหญ่
ต้นโกงกางใบใหญ่ จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20-30 เมตร (บ้างก็ว่าสูงประมาณ 30-40 เมตร) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเหนือคอ ราก เมื่อโตเต็มที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะเปลาตรง ด้านรับแสงจะมีกิ่งก้านมาก เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลเทา เปลือกต้นค่อนข้างเรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นๆ ส่วนเปลือกในเป็นสีส้ม ในกระพี้เป็นสีเหลืองอ่อน และแก่นเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้ฝักโดยตรง โดยใช้ฝักแก่ที่ยังสมบูรณ์ไม่มีโรคและแมลงเข้ามาทำลาย โดยดูได้จากบริเวณรอยต่อของฝักกับผลจะมีปลอกสีขาวอมเหลืองหุ้มอยู่ ถ้าหากมีขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร และเป็นสีเหลืองแสดงว่าฝักแก่สมบูรณ์แล้ว หรือจะเก็บฝักที่ร่วงหล่นลงน้ำก็ได้ เพราะถ้าฝักแก่สมบูรณ์จะลอยน้ำได้ เมื่อได้ฝักมาแล้วก็ให้นำมาปลูกในทันที เพราะถ้าเก็บไว้นานเท่าไหร่ความสามารถในการงอกก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
ลักษณะของรากของโกงกางใบใหญ่
รากโกงกางใบใหญ่ มีรากเป็นแบบค้ำจุนขนาดใหญ่ โดยจะงอกจากลำต้นออกเป็นจำนวนมาก ดูไม่เป็นระเบียบ เพราะแตกแขนงระเกะระกะ และมีลักษณะเป็นทรงเรือนยอดรูปกรวยคว่ำแบบแคบๆ
ลักษณะของใบโกงกางใบใหญ่
ใบโกงกางใบใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับตรงข้ามกัน โดยใบแต่ละคู่จะออกแบบสลับทิศทางกัน ใบมีลักษณะเป็นรูปใบมนค่อนไปทางรูปหอก ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งแข็งเล็กๆ ส่วนฐานใบสอบเข้าหากันคล้ายกับรูปลิ่ม หน้าใบเป็นสีเขียวอ่อน ส่วนหลังใบเรียบเกลี้ยงและเป็นสีเขียวอมเหลือง และหลังใบยังมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆ เห็นได้ชัดเจนอยู่ทั่วหลังใบ โดยใบมีความกว้างประมาณ 5-13 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-18 เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวประมาณ 2.5-5.5 เซนติเมตร และยังมีหูใบสีแดงเข้มยาวประมาณ 5-9 เซนติเมตร หุ้มใบอ่อนไว้
ลักษณะของดอกโกงกางใบใหญ่
ดอกโกงกางใบใหญ่ ออกดอกเป็นช่อแบบ Cymes ในแต่ละช่อดอกจะประกอบไปด้วยดอกประมาณ 2-12 ดอก ดอกมีสีขาวอมสีเหลือง มีกลีบอยู่รอบดอก มีอยู่ด้วย 4 กลีบ ลักษณะของกลีบรอบกลีบดอกเป็นรูปไข่ ส่วนโคนกลีบติดกัน ส่วนกลีบดอกเป็นรูปใบหอก มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ขอบของกลีบดอกจะมีขนยาวขึ้นปกคลุมอยู่ และดอกจะมีเกสรตัวผู้จำนวน 8 อัน ยาวประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร
สรรพคุณของโกงกาง
1.ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน (ใช้เปลือกต้มกับน้ำดื่ม)
2.ช่วยแก้อาการท้องร่วง โดยใช้เปลือกนำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้น้ำจากเปลือกนำมากินแก้อาการก็ได้เช่นกัน
3.ช่วยแก้บิด บิดเรื้อรัง โดยใช้เปลือกนำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้น้ำจากเปลือกนำมากินแก้อาการก็ได้เช่นกัน
4.เปลือกใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาสมาน (เปลือก)
5.ใช้เปลือกตำแล้วนำมาพอกช่วยห้ามเลือดได้ดี หรือจะใช้ใบอ่อนเคี้ยวหรือตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบาดแผลสดและห้ามเลือดก็ได้เช่นกัน (ใบ,เปลือก)บ้างก็ว่าน้ำจากเปลือกก็ใช้ชะล้าแผลและห้ามเลือดได้เช่นกัน (น้ำจากเปลือก)
6.เปลือกนำมาต้มกับน้ำใช้ชะล้างรักษาบาดแผลเรื้อรัง หรือจะใช้น้ำจากเปลือกก็ได้ (เปลือก,น้ำจากเปลือก)
ประโยชน์ต้นโกงกาง
ไม้โกงกาง มีลักษณะเปลาตรง เป็นไม้ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง เหนียว ทนทาน จึงเหมาะสำหรับการนำมาแปรรูปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ใช้ในงานก่อสร้าง เช่น ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้าน หรือใช้ทำไม้เสาเข็ม ไม้ค้ำยันต่างๆ ทำเสาและหลักในที่มีน้ำทะเลขึ้นถึง ทำเยื่อกระดาษ
ประโยชน์ไม้โกงกางที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการนำมาใช้ทำเป็นฟืนและถ่านเกรดคุณภาพดี ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นไม้ที่ให้ความร้อนสูงและนาน (ให้ค่าความร้อนประมาณ 6,600-7,200 แคลอรี) อีกทั้งยังมีขี้เถ้าน้อยและไม่เกิดสะเก็ดไฟเมื่อนำมาใช้งานอีกด้วย
เปลือกของต้นโกงกางมีสารแทนนินและฟีนอลจากธรรมชาติสูงมาก อีกทั้งยังมีราคาถูกที่สุด ซึ่งสารดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ทำยา ทำหมึก ทำสี ใช้ในการฟอกหนัง ใช้ทำกาวสำหรับติดไม้ เป็นต้น
เปลือกมีน้ำฝาดประเภท Catechol ให้สีน้ำตาลที่สามารถนำมาย้อมสีผ้าได้ เช่น ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ
ป่าโกงกางมีความสำคัญอย่างมากสำหรับสัตว์ทะเลต่างๆ เนื่องจากเป็นที่วางไข่และฟักตัวอ่อน และเป็นแล่งที่มีสภาพสมดุลทางธรรมชาติสูงมาก

ป่าไม้โกงกาง สามารถช่วยป้องกันรักษาชายฝั่งทะเลจากการกัดเซาะของกระแสน้ำได้ และยังใช้เป็นแนวกำบังคลื่นลมที่เคลื่อนเข้ามาปะทะชายฝั่งได้เป็นอย่างดี

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผลงานของ ริท เดอะสตาร์6

ผลงานของ ริท เดอะสตาร์6

ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช เกิดวันที่ 20 มิถุนายน 2533 ปัจจุบันอายุ 20 ปี จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขณะนี้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่ง ริท เรืองฤทธิ์ เผยถึงเหตุผลที่เลือกเรียนหมอว่า ที่บ้านฝันไว้ว่าอยากให้ลูกได้เป็นหมอตั้งแต่เด็กแล้วครับ พ่อแม่มองว่าหมอเป็นอาชีพที่มั่นคง เลยสนับสนุนให้ผมเรียนหมอครับ ทั้งที่ความจริงผมก็เฉย ๆ นะ ผมอยากเรียนอะไร ๆ ที่มันสบาย ๆ มากกว่านี้ เพราะเรียนหมอต้องเรียนหนักมาก แต่ผมก็จะพยายามเรียนในแบบของผมครับ (ยิ้ม) แต่จริง ๆ ผมก็มีความฝันว่าอยากจะเป็นนักร้องครับ

และด้วยหน้าตาน่ารักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ ริท เรืองฤทธิ์ ถูกรุ่นพี่ดันให้เป็นตัวแทนฝ่ายชายของคณะแพทยศาสตร์ เพื่อเข้าประกวด KKU Freshy Boy & Girl 2009 หรือ เดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งในการประกวดครั้งนั้น ริท เรืองฤทธิ์ ที่ชื่นชอบการร้องเพลงเป็นชีวิต ก็หยิบไมค์มาครวญเพลงเพื่อแสดงความสามรถ จนชนะใจกรรมการได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครอบครอง ในการประกวดครั้งนั้น ทำให้ ริท เรืองฤทธิ์ กลายเป็นคนที่กล้าแสดงออกมากขึ้น จากที่แต่ก่อนจะขี้อาย ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่

สำหรับการมาประกวด The Star 6 ครั้งนี้นั้น ริท เรืองฤทธิ์ ให้เหตุผลสั้น ๆ ว่า "อยากลองทำดู" แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปยืนอยู่หน้าคณะกรรมการฝีปากกล้าทั้ง 3 คน ริท เรืองฤทธิ์ ก็นำนิสัยขี้เล่น กวน ๆ ทะเล้น ๆ ของตัวเองมาตอบคำถาม บวกกับเสียงร้องที่มีดี ทำให้ ริท เรืองฤทธิ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนภาคอีสาน ไปเก็บตัวในรอบสุดท้าย ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 8 คนสุดท้าย the star 6

"หัวเราะไม่ออกเลยครับ ผมได้เข้ารอบตัวเองก็ดีใจ แต่ก็เสียใจที่เพื่อน ๆ ไม่ได้ ตอนที่ได้ฟังเพื่อน ๆ ร้องเพลง รู้สึกว่าเพื่อนเราเก่ง ๆ ทั้งนั้น เราไม่ได้วิเศษหรือเลิศเลอมาจากไหน แต่ผมก็ได้ไปต่อ ก็ตั้งใจจะเป็นตัวแทนเพื่อน ๆ ไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ"






  

 ริท เดอะสตาร์6

เกิด : 20 มิถุนายน 2533 
ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด 
ส่วนสูง : 170 ซม. 
น้ำหนัก : 55 กก. 
การศึกษา : ชั้นปีที่ 1 คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
อุปนิสัย : ร่าเริง สดใส สนุกสนาน ขำขัน 
คติประจำใจ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด 
แนวเพลง : POP สนุกสนาน 
แนวหนัง : Fantacy 
สถานที่เที่ยว : ทะเล สวนสนุก 
อาหารโปรด : ข้าวผัดไม่ใส่ผัก ข้าวมันไก่ ข้าวหมูทอด 
ศิลปินคนโปรด : บี้ The Star 
นักแสดงที่ชื่นชอบ : บี้ The Star


ริท เรืองฤทธิ์ จากเดอะสตาร์ 6